สิงอัศจรรย์เกี่ยวกับความรัก
ไม่สำคัญว่าคุณจะสำเร็จเรื่องรักมากหรือน้อยแค่ใหนแต่คุณก็ยังพบว่าการเลิกกันนั้นน่าสับสน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่คุณปลื้ม
เมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ Why We Love: The Nature and Chemintry of Romantic Love
ดร.เฮเลน ฟิชเชอร์ นักมานุษยวิทยา รายงานการศึกษาสมองของมนุษย์ ด้วยการแสกนคนที่ตกหลุมรักหมดหัวใจ ซึ่งนั่นตรงกับการศึกษาความสัมพันธ์ของมนุษย์ก่อนประวัติศาตร์เลย
ผลที่ได้นะหรือ? ก็ทำให้กระจ่างเรื่องของหัวใจ
ผมได้รวบรวมเอาข้อสังเกตเด็ดๆ ของฟิชเชอร์บางข้อนำทำให้ความเชื่อเก่าๆที่เล่ากันมาในตำนานเสียศูนย์กันไปเลย
1.คนที่ใช่ไม่ได้มีเพียงคนเดียว
ถ้าคุณคิดว่าคุณทำคู่แท้หลุดมือไปแล้วล่ะก็ อย่าเสียใจไปเลย
ตามการศึกษาของฟิชเชอร์ โลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้ชายและผู้หญิงที่มีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่ใช่เยอะแยะเต็มไปหมด
"และเหตุผลที่ผู้หญิงทุกคนทุกข์ใจจากการบอกเลิกหหรือแยกทางกันนั้น เป็นเพราะพวกเค้าเชื่อกันว่าโลกใบนี้มีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่ถูกสร้างมาเพื่อเค้า" แต่นั่นไม่จริงหรอก
ใช่แล้ว ถึงเราจะกำหนดสเปคและคาดหวังว่าเราต้องการอะไร และผู้ชายหรือผู้หญิงแบบใหน? ถ้ามีสักคนผ่านเข้ามาที่ใกล้เคียงกับมาตรฐาน กฎเกณฑ์ที่ได้วางเอาไว้นั้นก็จะกระเด็นไปทันที
ตามการศึกษาของฟิชเชอร์ โลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้ชายและผู้หญิงที่มีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่ใช่เยอะแยะเต็มไปหมด
"และเหตุผลที่ผู้หญิงทุกคนทุกข์ใจจากการบอกเลิกหหรือแยกทางกันนั้น เป็นเพราะพวกเค้าเชื่อกันว่าโลกใบนี้มีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่ถูกสร้างมาเพื่อเค้า" แต่นั่นไม่จริงหรอก
ใช่แล้ว ถึงเราจะกำหนดสเปคและคาดหวังว่าเราต้องการอะไร และผู้ชายหรือผู้หญิงแบบใหน? ถ้ามีสักคนผ่านเข้ามาที่ใกล้เคียงกับมาตรฐาน กฎเกณฑ์ที่ได้วางเอาไว้นั้นก็จะกระเด็นไปทันที
2.รักแรกพบมีอยู่จริง
ใช่แล้ว คุณเคยได้ยินมันในบทเพลง เห็นจากในหนัง หรือฟังเพื่อนเล่ามามันเกิดขึ้นกับเธอมาแล้ว ลองเดาสิว่าไง?
ฟิชเชอร์เปรียบเทียบปฎิกิริยาทางสัตว์กับคนแล้วพบว่า มันจะเป็นไปได้ที่เราจะรักใครสักคนที่เพิ่งเจอแค่แป้ปเดียว
ทางชีวภาพสัตว์ต้องหาคู่ก่อนให้ได้ฤดูผสมพันธ์สิ้นสุดลง ก็เลยต้องถูกตาต้องใจกันอย่างรวดเร็ว ในเมื่อสมองเราส่งสารแบบนั้น เราก็เลยสามารถตอบโต้ตัวกระตุ้นอย่างความชอบ ภาษากาย และความเข้ากันได้อย่างรวดเร็วพอๆกัน
ฟิชเชอร์เปรียบเทียบปฎิกิริยาทางสัตว์กับคนแล้วพบว่า มันจะเป็นไปได้ที่เราจะรักใครสักคนที่เพิ่งเจอแค่แป้ปเดียว
ทางชีวภาพสัตว์ต้องหาคู่ก่อนให้ได้ฤดูผสมพันธ์สิ้นสุดลง ก็เลยต้องถูกตาต้องใจกันอย่างรวดเร็ว ในเมื่อสมองเราส่งสารแบบนั้น เราก็เลยสามารถตอบโต้ตัวกระตุ้นอย่างความชอบ ภาษากาย และความเข้ากันได้อย่างรวดเร็วพอๆกัน
3.อยู่ห่างๆกันบ้างก็ดี
ในขณะที่คุณคลั่งรักอย่างหัวปักหัวปำสิ่งที่คุณอยากทำก็คือการเอาอกเอาใจเขา และอยากเกาะติดเขาแจได้ทั้งวันทั้งคืน
แต่ฟิชเชอร์ยืนยันว่าคุณไม่ต้องทำเช่นนั้น ทำไม?
ผลจากการศึกษายืนยันว่า
การอยู่ห่างกันทำให้สารเคมีแห่งความรักอย่างโดพามีนและนอเรฟฟินเนฟฟินในสมองเริ่มผลผลิต ดังนั้นไม่จำเป็นหรอกที่คุณจะต้องนัดเจอกับเค้าบ่อยๆ มองแบบนี้สิ การพบกันในนานๆครั้งนั้นคุณจะคิดถึงและมีความรักต่อเค้ามากขึ้นเป็นกองเลย
4.ความรักไม่ใช่เรื่องของอารมณ์
ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ ผลในการศึกษาและสแกนสมองคนที่ตกหลุมรักอย่างโงหัวไม่ขึ้้นของเธอ
ฟิชเชอร์พบว่า ความรักกระตุ้นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับการจดจ่อไปที่แรงจูงใจ และเเรงผลักดันเพื่อจะขนะรางวัล เช่น อาหารหรือเซกซ์ซึ่งตรงกันข้ามกับสมองส่วนความรู้สึก เช่น ความสุขหรือความเศร้า ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมเราจึงว้าวุ่นใจเป็นพิเศษสำหรับคนที่ทำให้ชีพจรของเราเต้นรัว
5.ความรักเป็นสิ่งเสพติด
เมื่อฟิชเชอร์ขอให้ดูรูปแฟนเก่าส่วนสมองที่เกี่ยวข้องกับสิ่่่งเสพติดแอคทีฟเป็นพิเศษเลย โดพามีนถูกหลั่งออกมา แล้วทำให้เคลิบเคลิ้มและจิตใจหวั่นไหวล่องลอยอย่างแรงเหมือนกับการใช้ยาเสพติดเลย และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราโหยหาหวานใจของเราไง
6.ผู้ชายรักง่ายกว่าผู้หญิง
เรามีแนวโน้มจะคิดว่าผู้หญิงจะมีรัก แต่ความจริงแล้วผู้ชายจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า 'สมองผู้ชายติดตั้งสัญญาณเกี่ยวกกัยการมองเห็นมากกว่า' ฟิชเชอร์บอกดังนั้นเมื่อหนุ่มๆเห็นสาวที่ทำให้เครื่องเขาติด ก็จะไปกระตุ้นส่วนสมองส่วนพิเศษที่มีเฉพาะในเพศชาย แล้วคุณยังจะคิดว่าจะชนะใจเค้าได้เพราะคัฟเอหรือคัฟบีที่คุณใส่หรือไม่